เมื่อก่อนเคนกลัวการเก็บเงินปลายทางมากเลย คิดว่ามันต้องยุ่งยากแน่ๆ ต้องมีเอาบัญชีธนาคาร บัตรประชาชน ไปลงทะเบียน แล้วยังต้องคำนวณค่าเก็บเงินปลายทางอีก โอ๊ย ยุ่งยาก ….. จนลองใช้จริง เอ๊า…ง่ายแค่เนี้ยหรอกเรอะ!!!
เคนเป็นเพียงบล็อกเกอร์ผู้เขียนแนะนำบริการเท่านั้นครับ หากต้องการสอบถามเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง แนะนำให้ติดต่อกับ Kerry Express โดยตรงครับ
อัพเดท 06/08/2560 มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสมัครใช้บริการ
จากข้อมูลข้างล่างที่เคนเขียนไว้นั้น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมาทาง Kerry Express ส่งอีเมลมาให้ลงทะเบียนเกี่ยวกับ COD ใหม่อีกครั้ง โดยจะเป็นการลงทะเบียนที่สามารถใช้งานได้กับ Parcel Shop ทุกสาขา โดยให้ลงข้อมูลผ่านเว็บไซต์ แล้วค่อยเอา
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร
ไปยื่นใหม่อีกครั้ง ซึ่งหมดเขตให้ยื่นวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ซึ่งเคนไปยื่นวันสุดท้ายพอดี หลังจากนี้เคนจึงไม่แน่ใจว่าการสมัครจะเปลี่ยนรูปแบบไปหรือไม่ แต่น่าจะเหมือน ๆ กันตามด้านล่างที่เคนเขียนบทความใหม่อัพเดทครับ
สมัครใช้บริการแบบใหม่ หลังเดือนกรกฎาคม 2560
คำเตือน
เคนไม่แน่ใจเรื่องการสมัครแบบใหม่ตามด้านล่างนะครับ ยังไงลองสอบถามกับทางพนักงานของ Kerry Express อีกทีนะ
เพราะนี่เป็นการสมัครแบบที่เคนมีบัญชีอยู่แล้ว แล้วทำการย้ายระบบเท่านั้น หากเป็นการสมัครใหม่เลย เพื่อความมั่นใจลองติดต่อกับ Parcel Shop ให้เค้าแนะนำจะดีที่สุดครับ แล้วมาบอกเคนด้วยนะ!! จะได้มาอัพเดทบทความกัน
ขั้นแรก ลงทะเบียนก่อน
ใครลงทะเบียนแล้วไปข้อ 2 ได้เลยครับ
สมัครผ่านหน้าเว็บไซต์ http://th.cms.kerryexpress.com/easyship/
คลิก สมัครใช้งานฟรี เพื่อทำการกรอกข้อมูลได้เลย
หลังจากสมัครเสร็จเรียบร้อย
ยืนยันอีเมลเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการเข้าสู่ระบบเข้าไปด้านในเลยครับ แล้วเลือกเมนูบริการเก็บเงินปลายทาง
พอเข้ามาแล้วจะมีรายละเอียดขั้นตอนอธิบายไว้ครับ
แต่ก่อนที่เราจะเอาเอกสารไปยื่นเคนอยากให้ไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัวกันก่อนครับ โดยคลิกที่ปุ่ม Profile ด้านบนมุมขวา แล้วเลือก เมนูแก้ไขข้อมูลส่วนตัว
เข้าไปกรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก่อนจะนำเอกสารไปส่งจะดีที่สุดครับ เพราะไม่อย่างนั้นเค้าก็จะให้เรากรอกอยู่ดี
เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วก็นำเอกสารไปยื่นที่ Parcel Shop ใกล้บ้านได้เลยครับ
สมัครแบบเก่า ก่อนเดือนกรกฎาคม 2560
มาดูกันเลยว่าการใช้บริการเก็บเงินปลายทางของ Kerry Express เนี่ยทำยังไง
สิ่งที่ต้องเตรียมไปลงทะเบียน
- บัตรประชาชน
- สำเนาบัญชีธนาคารกรุงเทพ
ขั้นแรก ลงทะเบียนก่อน
ต้องไปลงทะเบียนก่อนส่งจริง 1 วันนะ เช่น ถ้าจะส่งพรุ่งนี้ ต้องไปลงทะเบียนวันนี้เลย อันนี้เฉพาะคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเลย แต่ถ้าเคยลงทะเบียนแล้วก็ถือไปส่งได้เลย
หลังจากสมัครเรียบร้อยแล้ว
ขั้นที่ 2 คิดเงินลูกค้า
คิดเงินลูกค้า +3% จากค่าสินค้าด้วยนะ เพราะว่าเราเรียกเก็บลูกค้าเท่าไหร่ Kerry Express เค้าจะคิด 3% ของยอดที่เราเรียกเก็บเป็นค่าบริการ ซึ่งแยกกับค่าจัดส่งอีกต่างหาก เช่น
กาแฟ New ME D Coffee 3 กล่อง 660 บาท รวมจัดส่ง EMS แล้ว ถ้าลูกค้าต้องการเก็บเงินปลายทางก็ให้เก็บเพิ่มจากลูกค้า 3% จะเป็น 660 x 0.03 = 19.8 หรือประมาณ 20 บาท ก็บอกลูกค้าว่า รวมทั้งหมด 660 + 20 = 680 บาทน๊าาาา
ขั้นที่ 3 ติดสติ๊กเกอร์
ติดสติ๊กเกอร์อันนี้ที่กล่อง จะขอมาสต็อกไว้เลยก็ได้เพราะ Kerry Express เค้าให้อยู่แล้ว หรือจะไปติดที่สาขาที่ส่งเลยก็ได้เช่นกัน
ขั้นที่ 4 ไปส่ง
ไปส่งเค้าก็จะคิดค่าจัดส่งปกติ สมมติค่าจัดส่ง 80 บาท เสร็จแล้วพนักงานจะถามเราว่า จะเรียกเก็บเท่าไหร่คะ? เราก็บอกไปจากข้อ 2 เลยว่า 680 บาทค่าาาา
แล้วพนักงานจะคำนวณ +3% เข้าไปอีก 680 x 0.03 = 20.4 หรือประมาณ 21 บาท รวมยอดที่เราต้องจ่ายให้ Kerry Express จะเป็น ค่าจัดส่ง 80 + ค่าบริการเก็บเงินปลายทาง 21 บาท รวมเป็น 101 บาท นั่นเอง
ขั้นที่ 5 รับเงิน
รอลูกค้าจ่ายเงินรับของ แล้ว Kerry Express จะโอนเงินให้เราหลังจากที่เก็บเงินจากลูกค้าแล้ว 3 วันทำการไม่นับรวมวันหยุด เช่น เก็บได้วันศุกร์ วันเสาร์นับ 1 วันอาทิตย์ไม่นับ วันจันทร์นับ 2 วันอังคารนับ 3 จะได้ประมาณวันอังคาร หรือวันพุธ
โดยถ้าจะได้รับเงินแล้ว Kerry Express จะส่งอีเมลมาบอกก่อนโอนเงินหน้าตาประมาณนี้
บอกว่ายอดเงินที่ปรากฎในรายงานของบริการเก็บเงินปลายทางจะโอนเข้าบัญชีของคุณภายใน 22 นาฬิกา หรือ 4 ทุ่ม แล้วเค้าก็จะแนบรายงานมาให้เราดาวน์โหลดมาดูได้
พอถึงเวลายอดเงินเข้าจริงแล้ว Kerry Express ก็จะส่งอีเมลมาอีกฉบับแบบนี้
แล้วเค้าก็จะแนบเอกสารการโอนเงินเข้าบัญชีมาให้เราดูด้วย ดาวน์โหลดมาดูได้เลย
สรุป
เอาจริงๆ มันค่อนข้างง่ายมากๆ เลยกับบริการเก็บเงินปลายทาง ทีแรกเคนนึกว่าจะยุ่งยากสุดๆ วุ่นวายซะอีก พอได้ทำครั้งนึงแล้วก็รู้เลยว่า มันง่ายยยยยยยยย